Rated 4.98-stars across 2K+ reviews
Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews

กลัวเป็นมะเร็งปากมดลูก ต้องเริ่มสังเกตอาการยังไงบ้าง?

GeneusDNA profile image By
GeneusDNA
|
Sep 30, 2024
|
185
สุขภาพ
พันธุศาสตร์
โรค
มะเร็งปากมดลูก, มะเร็งปากมดลูก อาการ, มะเร็งปากมดลูก ยีน, มะเร็งปากมดลูก DNA
Summary
มะเร็งปากมดลูก, มะเร็งปากมดลูก อาการ, มะเร็งปากมดลูก ยีน, มะเร็งปากมดลูก DNA

มะเร็งปากมดลูก โรคร้ายที่พบได้บ่อยในผู้หญิง สามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจแนวโน้มความเสี่ยง พร้อมสังเกตอาการผิดปกติ ต้องทำยังไงบ้าง ที่นี่มีคำตอบ

มะเร็งปากมดลูก เป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบมากในผู้หญิง และสามารถรักษาได้หากตรวจพบในระยะแรก การสังเกตอาการและการตรวจคัดกรองเป็นประจำ จึงเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกัน และรักษามะเร็งชนิดนี้ การรู้จักอาการและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูก จะช่วยให้คุณสามารถดูแลตัวเองได้ดีขึ้น และเตรียมพร้อมสำหรับการป้องกัน และรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ป้องกัน มะเร็งปากมดลูก ลดความเสี่ยงด้วยการตรวจ DNA ได้

มะเร็งปากมดลูกคืออะไร?

มะเร็งปากมดลูกเกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์บริเวณปากมดลูก โดยสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่มะเร็งนี้คือ การติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ซึ่งเป็นเชื้อที่สามารถแพร่ผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุยังน้อย หรือมีคู่นอนหลายคน โดยเชื้อไวรัส HPV มีหลายสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก มักเป็นสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น HPV 16 และ 18

แม้ว่าการติดเชื้อไวรัส HPV จะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ติดเชื้อจะเกิดมะเร็ง เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถกำจัดเชื้อไวรัสนี้ได้ในบางกรณี อย่างไรก็ตาม หากมีการติดเชื้อเรื้อรัง และระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถกำจัดเชื้อได้ ก็อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ในเซลล์ปากมดลูก ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการพัฒนาสู่โรคมะเร็ง

การตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ เช่น การตรวจ Pap smear หรือ HPV DNA test สามารถช่วยในการตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกตั้งแต่ระยะแรก และทำให้การรักษามีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น

อาการของมะเร็งปากมดลูก

ในระยะแรกของการเกิดมะเร็งปากมดลูก มักไม่มีอาการที่ชัดเจน แต่เมื่อโรคลุกลามไปยังขั้นที่เซลล์มะเร็งเริ่มเติบโต และแพร่กระจาย อาการจะปรากฏชัดขึ้น ซึ่งอาการที่พบบ่อย ได้แก่

  • เลือดออกผิดปกติ – หนึ่งในอาการที่เป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งปากมดลูกคือ การมีเลือดออกที่ไม่สัมพันธ์กับรอบเดือน เช่น เลือดออกระหว่างรอบเดือน เลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หรือเลือดออกในวัยหมดประจำเดือน
  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ – หากประจำเดือนมามากเกินไป หรือมีระยะเวลายาวนานกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณว่า มีความผิดปกติในบริเวณปากมดลูก
  • ตกขาวผิดปกติ – การตกขาวที่มีสีและกลิ่นที่ผิดปกติ หรือมีเลือดปน เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม
  • ปวดในบริเวณอุ้งเชิงกราน – อาการปวดหรือรู้สึกไม่สบายบริเวณท้องน้อยหรือหลังส่วนล่าง โดยไม่มีสาเหตุชัดเจน อาจเกิดจากการที่เซลล์มะเร็งกดทับเนื้อเยื่อรอบๆ
  • ปัสสาวะลำบากหรือปัสสาวะมีเลือดปน – หากมะเร็งลุกลามไปยังท่อปัสสาวะ อาจทำให้รู้สึกปวดหรือแสบเมื่อปัสสาวะ หรือมีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ

แม้ว่าอาการเหล่านี้อาจไม่จำเพาะเจาะจงกับมะเร็งปากมดลูก แต่หากพบว่ามีอาการเหล่านี้เป็นระยะเวลานาน ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโดยด่วน

อาการของมะเร็งปากมดลูก

อันตรายจากมะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคร้ายแรงที่หากตรวจพบช้า หรือไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที สามารถลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย เช่น กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ หรือปอดได้ ซึ่งทำให้การรักษายากขึ้น และเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อระบบขับถ่าย ระบบย่อยอาหาร และระบบการหายใจ

นอกจากนี้ การที่มะเร็งลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองหรืออวัยวะภายในอื่นๆ จะทำให้โอกาสในการรอดชีวิตลดลง รวมถึงคุณภาพชีวิตที่แย่ลง เนื่องจากการเจ็บปวด และความทรมานที่เกิดจากมะเร็ง การตรวจคัดกรองและการรักษาในระยะแรก จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันภาวะแทรกซ้อน และเพิ่มโอกาสในการหายขาด

แนวโน้มความเสี่ยงและโอกาสที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูก

ความเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็งปากมดลูกมีหลายปัจจัย ซึ่งบางปัจจัยสามารถควบคุมได้ แต่บางปัจจัยอาจเกิดจากกรรมพันธุ์และสภาพแวดล้อม ดังนี้

  1. ติดเชื้อไวรัส HPV – การติดเชื้อ HPV เป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปากมดลูก โดยเฉพาะในกรณีที่มีการติดเชื้อสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง การป้องกันการติดเชื้อด้วยการรับวัคซีน HPV จึงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยง
  2. มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุยังน้อยหรือมีคู่นอนหลายคน – การมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุยังน้อย หรือมีคู่นอนหลายคน ทำให้โอกาสในการติดเชื้อ HPV สูงขึ้น
  3. สูบบุหรี่ – สารเคมีในบุหรี่สามารถทำให้เซลล์ปากมดลูกเกิดการเปลี่ยนแปลงผิดปกติ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
  4. ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ – ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV หรือผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน มีความเสี่ยงสูงกว่าในการเกิดมะเร็งปากมดลูก
  5. กรรมพันธุ์ – หากมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปากมดลูก หรือมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งจากพันธุกรรม การตรวจ Geneus DNA สามารถช่วยในการวิเคราะห์ความเสี่ยงทางพันธุกรรม และทำให้คุณได้รับคำแนะนำในการป้องกัน และดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม

ตรวจยีนมะเร็งปากมดลูกด้วย Geneus DNA

ด้วยนวัตกรรม Whole Genome-wide Array ของ Geneus DNA สามารถวิเคราะห์ตำแหน่ง SNPs กว่า 10 ล้านตำแหน่ง ทำให้สามารถถอดรหัสพันธุกรรมได้มากกว่า 20,000 ยีน ซึ่งข้อมูลนี้จะช่วยให้ผู้ที่ใช้บริการสามารถรับรู้เกี่ยวกับสุขภาพ และลักษณะทางพันธุกรรมได้มากกว่า 500 รายการ รวมถึงความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปากมดลูก 

นอกจากนี้แล้ว ผลการวิเคราะห์ดีเอ็นเอของ Geneus DNA ยังสามารถระบุแนวโน้มการแพ้ยา ความต้องการทางโภชนาการ วิตามิน การออกกำลังกาย และการพักผ่อนที่เหมาะสมกับตัวเองได้ด้วย โดยผลการวิเคราะห์จะถูกจัดทำในห้องแล็บที่มีมาตรฐานระดับโลกในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้มีความแม่นยำสูง ช่วยให้คุณสามารถดูแลสุขภาพของตัวเองได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

 วิธีรักษามะเร็งปากมดลูก

วิธีรักษามะเร็งปากมดลูก

การรักษามะเร็งปากมดลูกจะขึ้นอยู่กับระยะของโรค ความรุนแรง และสถานะสุขภาพของผู้ป่วย โดยมีวิธีการรักษาหลักๆ ดังนี้

  • การผ่าตัด (Surgery) – หากมะเร็งปากมดลูกถูกตรวจพบในระยะแรก การผ่าตัดเอาเนื้อมะเร็งและเนื้อเยื่อรอบๆ ออกสามารถช่วยให้หายขาดได้ โดยในบางกรณีอาจต้องผ่าตัดเอามดลูกออกทั้งหมด (Hysterectomy) หากมะเร็งลุกลามไปยังส่วนอื่นของมดลูก
  • การฉายรังสี (Radiation Therapy) – การใช้รังสีในการทำลายเซลล์มะเร็งเป็นวิธีที่ใช้ร่วมกับการผ่าตัด หรือในกรณีที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ การฉายรังสีสามารถช่วยลดขนาดของมะเร็ง และป้องกันการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น
  • การใช้เคมีบำบัด (Chemotherapy) – สำหรับผู้ป่วยที่มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ การใช้ยาคีโมจะช่วยในการทำลายเซลล์มะเร็ง แต่ก็มีผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น คลื่นไส้ ผมร่วง และอ่อนเพลีย
  • การบำบัดทางภูมิคุ้มกัน (Immunotherapy) – เป็นวิธีใหม่ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ให้สามารถต่อสู้กับมะเร็งได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มะเร็งปากมดลูกมีการลุกลาม

มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคร้ายที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย รวมถึงการติดเชื้อ HPV และกรรมพันธุ์ การสังเกตอาการผิดปกติ เช่น การเลือดออกที่ไม่ปกติ ตกขาวผิดปกติ หรืออาการปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มต้นได้ การตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ และการรักษาอย่างทันท่วงที สามารถเพิ่มโอกาสในการหายขาด และลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้อย่างมาก

 

chat line chat facebook