Rated 4.98-stars across 2K+ reviews
Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews

อาการตาล้า ปัญหาคนใช้สายตาเยอะ ควรกินวิตามินอะไร?

GeneusDNA profile image By
GeneusDNA
|
Oct 15, 2024
|
534
สุขภาพ
วิตามิน
อาการตาล้า, วิตามิน บำรุงสายตา, ลูทีน, ตาล้า กินอะไร, ปวดตา วิตามิน
Summary
อาการตาล้า, วิตามิน บำรุงสายตา, ลูทีน, ตาล้า กินอะไร, ปวดตา วิตามิน

ในยุคดิจิทัลที่การใช้สายตาอย่างหนักกลายเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์หรือใช้สมาร์ทโฟน อาการตาล้าจึงเกิดขึ้นบ่อย การดูแลดวงตาด้วยวิตามินที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันและบรรเทาอาการตาล้าอย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้สายตาอย่างหนักเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ การใช้สมาร์ทโฟน หรือการอ่านหนังสือเป็นเวลานาน ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถนำไปสู่อาการที่เรียกว่า "อาการตาล้า" (Eye Strain) ได้ โดยอาการนี้มักเกิดขึ้นเมื่อดวงตาต้องทำงานหนักเป็นเวลานาน และไม่ได้รับการพักผ่อน ส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่สบายตา ปวดตา และบางครั้งอาจทำให้มองเห็นภาพไม่ชัด

อย่าปล่อยให้ ตาล้า ตาแห้ง เพราะจ้องหน้าจอโทรศัพท์ 

อาการตาล้า คืออะไร?

อาการตาล้า (Eye Strain) คือ ภาวะที่เกิดจากการใช้งานสายตาอย่างหนักหรือเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อใช้สายตาในการทำงานระยะใกล้ เช่น การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือการอ่านหนังสือ ส่งผลให้กล้ามเนื้อตาเกิดการหดตัวอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถผ่อนคลายได้ตามปกติ

โดยส่วนใหญ่ผู้ที่มีอาการตาล้า มักมาจากการทำงานที่ต้องใช้สมาธิอย่างสูงเป็นระยะเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อตาต้องทำงานอย่างหนักตลอดเวลา ซึ่งเป็นการกระตุ้นการผลิตของสารเคมีในสมอง ที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและความอ่อนล้า เช่น คอร์ติซอล (Cortisol) ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนล้าทางสายตา และมีความเครียดสะสมตามมา

นั่นก็เพราะว่า คอร์ติซอล (Cortisol) เกี่ยวข้องกับอาการปวดตา และตาล้าในลักษณะที่เกี่ยวกับการ ตอบสนองของร่างกายต่อความเครียด (Stress response) เมื่อร่างกายอยู่ในสภาวะเครียด หรือทำงานหนักโดยใช้สายตาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายจะผลิตคอร์ติซอลมากขึ้น เพื่อช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอในการรับมือกับความเครียดนั้น นอกจากนี้ คอร์ติซอลยังมีผลต่อการลดคุณภาพการนอนหลับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ ความสามารถของดวงตาในการฟื้นฟูและพักผ่อน เมื่อการนอนหลับไม่เพียงพอ อาการตาล้าจะยิ่งรุนแรงขึ้น และมีแนวโน้มเกิดอาการปวดตามากขึ้นตามไปด้วย

สาเหตุของอาการตาล้า

อาการตาล้าเกิดขึ้นจากการที่ดวงตาต้องทำงานหนักเกินไป ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในยุคปัจจุบัน การทำความเข้าใจสาเหตุของอาการตาล้าจะช่วยให้เราสามารถป้องกัน และดูแลดวงตาได้ดีขึ้น ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดอาการตาล้า มีดังนี้

  • การจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน: การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน สามารถทำให้กล้ามเนื้อตาล้าได้ เพราะดวงตาต้องปรับโฟกัสตลอดเวลา และการกระพริบตาจะน้อยลงเมื่อจ้องหน้าจอ ทำให้น้ำตาระเหยเร็ว และเกิดอาการตาแห้ง
  • ทำงานในที่แสงสว่างไม่เหมาะสม: แสงที่ไม่เพียงพอหรือแสงที่จ้ามากเกินไปขณะทำงาน หรืออ่านหนังสือ สามารถทำให้ดวงตาเครียดและล้าได้
  • การใช้สายตาในระยะใกล้: การอ่านหนังสือหรือการทำงานที่ต้องใช้สายตา ในระยะใกล้มากเป็นเวลานาน สามารถทำให้ดวงตาเหนื่อยล้าได้
  • สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม: การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศแห้ง หรือลมพัดแรง อาจทำให้น้ำตาระเหยเร็ว ส่งผลให้เกิดอาการตาแห้งและตาล้าได้เช่นกัน

สาเหตุของอาการตาล้า

อาการตาล้ามีลักษณะอย่างไร

เมื่อดวงตาต้องทำงานหนักเกินไป อาการต่าง ๆ จะเริ่มปรากฏ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่า เราควรหยุดพัก และดูแลดวงตาของเราให้มากขึ้น โดยอาการที่เกิดจากตาล้ามีหลายรูปแบบ ดังนี้

  • ปวดตา: มีความรู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณรอบดวงตา
  • ตาแห้ง: มีความรู้สึกแสบหรือเคืองตา เนื่องจากการผลิตน้ำตาลดลง
  • มองเห็นภาพไม่ชัด: มองเห็นภาพเบลอหรือมีเงาซ้อน
  • ปวดศีรษะ: อาการปวดศีรษะมักเกิดขึ้นเมื่อสายตาต้องทำงานหนักเกินไป
  • ตาแดง: อาจเกิดจากการระคายเคือง หรือความเหนื่อยล้าของดวงตา

 

วิธีป้องกันอาการตาล้า

การป้องกันอาการตาล้าเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวันของเรา เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพียงเล็กน้อย ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงของอาการตาล้าได้ เช่น

  1. พักสายตาเป็นระยะ: ใช้กฎ 20-20-20 คือทุก 20 นาที พักสายตา 20 วินาที โดยมองไปที่สิ่งของในระยะ 20 ฟุต
  2. ปรับแสงสว่างให้เหมาะสม: ใช้แสงที่เพียงพอและเหมาะสมขณะทำงานหรืออ่านหนังสือ  ตลอดจนหลีกเลี่ยงการทำงานในที่ที่แสงจ้าหรือมืดจนเกินไป
  3. กระพริบตาบ่อยๆ: การกระพริบตาสามารถรักษาความชุ่มชื้นให้ดวงตา พร้อมลดอาการตาแห้งและตาล้าได้เช่นกัน
  4. ใช้แว่นตากรองแสง: สำหรับผู้ที่ต้องทำงานหน้าจอเป็นเวลานาน ควรใช้แว่นตาที่มีเลนส์กรองแสงสีฟ้า เพื่อลดความเสี่ยงปัญหาทางสายตาในอนาคต
  5. จัดที่นั่งและระยะการมองให้เหมาะสม: ปรับที่นั่งและระยะห่างระหว่างสายตากับจอให้เหมาะสม เพื่อให้สายตาอยู่ในท่าทางที่ผ่อนคลาย ซึ่งระยะห่างระหว่างสายตากับจอภาพ ควรอยู่ที่ประมาณ 50-70 เซนติเมตร หรือประมาณระยะห่างของแขนที่ยื่นออกไปตรงๆ และควรเพิ่มระยะอีกเล็กน้อย หากท่านใช้หน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานทั่วไป

วิธีป้องกันอาการตาล้า

วิตามินที่ควรกินเมื่อมีอาการตาล้า

การรับประทานวิตามินและสารอาหารที่เหมาะสม เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยบรรเทาอาการตาล้า และป้องกันการเสื่อมของดวงตาได้ โดยวิตามินที่มีประโยชน์ต่อดวงตามีหลายประเภท แต่ละชนิดมีบทบาทในการดูแลดวงตาแตกต่างกันไป การเลือกวิตามินที่เหมาะสม และการรับประทานในปริมาณที่ถูกต้อง จะช่วยให้ดวงตาแข็งแรง และมีสุขภาพดี 

  1. วิตามินเอ (Vitamin A): วิตามินเอเป็นวิตามินที่สำคัญสำหรับการมองเห็น ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดวงตา และป้องกันภาวะตาแห้ง การขาดวิตามินเออาจทำให้เกิดอาการตาแห้ง และมองเห็นในที่มืดได้ไม่ชัด
  2. ลูทีนและซีแซนทีน (Lutein and Zeaxanthin): ลูทีนและซีแซนทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญสำหรับดวงตา ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้า และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคตาเสื่อม การรับประทานอาหารที่มีลูทีนและซีแซนทีนสูง เช่น ผักใบเขียว ไข่แดง และผลไม้สีเหลือง สามารถช่วยบำรุงสายตา และลดอาการตาล้าได้
  3. วิตามินซี (Vitamin C): วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในดวงตา และป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในดวงตา นอกจากนี้ยังช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างดวงตาด้วย
  4. วิตามินอี (Vitamin E): วิตามินอีมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องดวงตาจากความเสียหายของเซลล์ ซึ่งอาจเกิดจากอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคตาเสื่อม และบรรเทาอาการตาล้า
  5. โอเมก้า 3 (Omega-3 Fatty Acids): โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่ช่วยลดอาการตาแห้ง โดยการเพิ่มการผลิตน้ำตา และลดการอักเสบในดวงตา นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงเซลล์ประสาทตา และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคตาเสื่อม การรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และเมล็ดแฟลกซ์ จะช่วยบำรุงดวงตาได้เป็นอย่างดี

การเสริมวิตามินบำรุงสายตา แก้ปัญหาตาแห้ง ตาล้าในชีวิตประจำวัน

แม้ว่าเราจะพยายามรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่บางครั้งอาจยังไม่เพียงพอ การเสริมวิตามินจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยบำรุงดวงตาได้ ซึ่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบของวิตามิน และสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น ลูทีน ซีแซนทีน และโอเมก้า 3 สามารถช่วยบำรุงสายตา และลดอาการตาล้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับวิธีการเลือกวิตามิน ควรเลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่มาแรงและได้รับความไว้วางใจคือ CARE Persona วิตามินสูตรคุณหมอ เนื่องจากมีสารสกัดพรีเมียม ครอบคลุมปัญหาสุขภาพหลายด้าน ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปทำแบบทดสอบ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพด้านอื่นๆ เพิ่มเติม และรอรับคำปรึกษาจากคุณหมอก่อนรับวิตามินสูตรที่เหมาะกับตัวเอง ทำให้มั่นใจได้ว่า จะได้รับการดูแลสุขภาพอย่างดีและตรงจุดที่สุด

วิตามินบำรุงสายตา CARE  Persona

 

chat line chat facebook