โรคฝีดาษลิง อันตรายใกล้ตัวที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก รวมวิธีสังเกตอาการ พร้อมแนวทางการป้องกันตัว และวัคซีนที่ควรรู้ ไม่อยากเป็นฝีดาษลิงต้องระวังอะไรบ้าง รวมมาให้ที่นี่แล้ว
ในปี 2024 โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) กำลังแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส Monkeypox และมีการแสดงอาการที่ค่อนข้างรุนแรง ดังนั้นการตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง ทั้งในเรื่องของอาการ วิธีการติดต่อ การป้องกัน และวัคซีนโรคฝีดาษลิง ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่เราควรให้ความสนใจ เพื่อไม่ให้ตัวเองติดโรค และช่วยควบคุมการระบาดจากคนสู่คนให้ลดลง
โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) หรือฝีดาษวานร เป็นโรคไวรัสที่เกิดจากเชื้อไวรัส Monkeypox ในตระกูล Orthopoxvirus ตระกูลเดียวกันกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคฝีดาษในคน (Smallpox) แม้ว่าโรคฝีดาษลิงจะมีลักษณะคล้ายกับโรคฝีดาษในคน แต่ความรุนแรงของโรคฝีดาษลิง ถือว่าน้อยกว่าโรคฝีดาษในคนพอสมควร
โรคฝีดาษลิงถูกพบครั้งแรกในปี 1958 จากการค้นพบเชื้อไวรัสในลิงทดลองที่ถูกนำมาใช้ในการศึกษา และทดลองเกี่ยวกับโรคฝีดาษ ส่วนสถานการณ์ในปัจจุบัน โรคฝีดาษลิงพบมากในสัตว์ฟันแทะ ที่อาศัยในธรรมชาติ เช่น หนู และกระรอก โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าฝนเขตร้อนของแอฟริกา อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถแพร่กระจายสู่มนุษย์ได้ ผ่านการสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือการสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากสัตว์ที่ติดเชื้อ ตลอดจนจากคนสู่คน ซึ่งทำให้เกิดการระบาดในบางพื้นที่
อาการของโรคฝีดาษลิงเริ่มต้นด้วยอาการเบื้องต้นที่คล้ายกับไข้หวัดใหญ่ ดังนี้
หลังจากมีอาการเบื้องต้นเหล่านี้ไม่นาน ผื่นจะเริ่มปรากฏ โดยมักเริ่มจากใบหน้าและลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ผื่นนี้จะเปลี่ยนลักษณะไปตามระยะต่างๆ ตั้งแต่ตุ่มแดง ตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง และในที่สุดก็จะกลายเป็นสะเก็ด
โรคฝีดาษลิงสามารถติดต่อและแพร่ระบาดได้หลายวิธี ดังนี้
การติดต่อจากคนสู่คนมักเกิดขึ้นในระยะใกล้ชิดเป็นเวลานาน หรือผ่านการสัมผัสกับสารคัดหลั่ง รวมถึงรอยโรคโดยตรง ดังนั้นหากอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือใกล้ชิดกับคนที่มีความเสี่ยงว่าอาจเป็นฝีดาษลิง จะต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
โรคฝีดาษลิงมีความอันตราย แม้ส่วนใหญ่ไม่รุนแรงเท่ากับโรคฝีดาษในคน แต่ก็ถือเป็นโรคติดต่อที่ส่งผลต่อสุขภาพ และภาพลักษณ์ภายนอก โดยอันตรายและอัตราการเสียชีวิตจากโรคฝีดาษลิง มีดังต่อไปนี้
แม้ว่าจะไม่มีการรักษาเฉพาะสำหรับโรคฝีดาษลิง แต่โรคนี้สามารถหายได้เองในบางกรณี หรือลดโอกาสของการเป็นโรคฝีดาษลิงได้ ด้วยการใช้ยาต้านไวรัส เช่น Tecovirimat ซึ่งพัฒนามาสำหรับโรคฝีดาษในคน ทำให้อาจมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคฝีดาษลิงร่วมด้วย
แต่สำหรับคนที่ยังไม่ได้มียาต้านไวรัสหรือวัคซีน สามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ด้วยวิธีดังนี้
วัคซีนที่ใช้ป้องกันโรคฝีดาษลิงมักจะเป็นวัคซีนที่พัฒนามาจากวัคซีนฝีดาษในคน โดยเบื้องต้นมีวัคซีนสองชนิดที่สามารถใช้ป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ ได้แก่
ด้านประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันโรคฝีดาษลิง คาดว่าอาจช่วยป้องกันโรคได้ดี และอาจมีความสามารถในการลดความเสี่ยงได้สูงถึง 85% ซึ่งจะช่วยได้มากเป็นพิเศษ หากได้รับการฉีดก่อนการสัมผัสกับเชื้อไวรัส
ทั้งนี้แม้ว่าวัคซีนป้องกันฝีดาษลิงอาจมีประสิทธิภาพสูง แต่วัคซีนฝีดาษลิงก็อาจมีผลข้างเคียงในบางคน เช่น บริเวณที่ฉีดอาจมีอาการบวมแดง หรือมีไข้เล็กน้อย ดังนั้นผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีประวัติแพ้ส่วนประกอบของวัคซีน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน