หากไวน์เพียง 1 แก้ว หรือ เบียร์เพียง 1 กระป๋อง สามารถทำให้คุณมีอาการหน้าแดงได้ นั่นแสดงว่า ร่างกายกำลังส่งสัญญาณเตือนว่า คุณอาจมีพันธุกรรมที่ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถขับแอลกอฮอล์ได้
หากไวน์เพียง 1 แก้ว หรือ เบียร์เพียง 1 กระป๋อง สามารถทำให้คุณมีอาการหน้าแดงได้ นั่นแสดงว่า ร่างกายกำลังส่งสัญญาณเตือนว่า คุณอาจมีพันธุกรรมที่ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถขับแอลกอฮอล์ได้ ซึ่งอาการหน้าแดงหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณแม้เพียงเล็กน้อยเช่นนี้ ทางการแพทย์เรียกว่า “Alcohol flush reaction” บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับภาวะนี้ในทุกแง่มุม ทั้งอาการที่พบ และพันธุกรรมที่เป็นสาเหตุ ซึ่งหากคุณมีพันธุกรรมนี้ การดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
ทุกครั้งที่ชนแก้ว คุณกำลังเพิ่มความเสี่ยงให้ตัวเองอยู่รึเปล่า
โดยปกติแล้ว ตับเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่กำจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย โดยมีเอนไซม์ 2 ชนิดในตับ เป็นเอนไซม์หลักในการกำจัดแอลกอฮอล์ ได้แก่
อาการหน้าแดงเกิดจากการสะสมของสารพิษ เนื่องจากตับไม่สามารถจำกัดสารพิษจากแอลกอฮอล์ได้
จากที่ได้พูดถึงไปแล้วว่า เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ที่เข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็นสารพิษที่ชื่อ อะซิทัลดีไฮด์ (acetaldehyde) ซึ่งในคนทั่วไป เจ้าสารพิษอะซิทัลดีไฮด์นี้จะถูกเอนไซม์ที่ชื่อ ALDH2 สลายอย่างรวดเร็วให้กลายเป็นสารที่ไม่มีพิษ ก่อนถูกขับออกจากร่างกาย
ดังนั้น ถ้าหากคนที่ร่างกายขาดแคลนเอนไซม์ ALDH2 ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปและแอลกอฮอล์ถูกเปลี่ยนเป็น สารพิษอะซิทัลดีไฮด์ ที่ตับแล้ว ร่างกายจะไม่สามารถเปลี่ยนสารพิษอะซิทัลดีไฮด์นี้ ให้กลายเป็นสารที่ไม่มีพิษเพื่อขับออกไปได้อย่างที่ควรจะเป็น จึงส่งผลให้เกิดการสะสมคั่งค้างของสารพิษอะซิทัลดีไฮด์ในร่างกาย ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการหน้าแดงหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ แม้ว่าจะดื่มในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็ตาม
อาการหน้าแดงหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ เกิดจากร่างกายขาดแคลนเอนไซม์ ALDH2 หรือร่างกายไม่สามารถผลิตเอนไซม์นี้ได้ตามธรรมชาติ ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจาก พันธุกรรม นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า บนสาย DNA ของเรามียีนชนิดหนึ่งทำหน้าที่ควบคุมการสร้างเอนไซม์ ALDH2 ในร่างกาย ซึ่งยีนชนิดนี้ก็มีชื่อว่า ยีน ALDH2 เช่นกัน
หากมี การกลายพันธุ์ของยีน ALDH2 จะทำให้ร่างกายของคนคนนั้น ไม่สามารถผลิตเอนไซม์ ALDH2 ได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้ตับไม่สามารถสลายพิษของสารอะซิทัลดีไฮด์ได้ เมื่อคนที่มีการกลายพันธุ์ของยีนนี้ดื่มแอลกอฮอล์แม้ในปริมาณเพียงเล็กน้อย จึงเกิดอาการหน้าแดง จากการสะสมตัวของสารพิษอะซิทัลดีไฮด์ นั่นเอง
ปัจจุบันพบว่า กว่า 40% ของประชากรในเอเชียตะวันออกเผชิญกับภาวะ alcohol flush reaction โดยเฉพาะผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากประเทศญี่ปุ่น จีน และเกาหลี ภาวะ alocohol flush reaction จึงมักถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “Asian flush”
อาการของ alcohol flush reaction สำหรับคนที่ขาดแคลนเอนไซม์ ALDH2 มักมีอาการเหล่านี้ หลังจากดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณเล็กน้อย
คนที่ร่างกายกำจัดแอลกอฮอล์ไม่ได้ ควรงดหรืองดดื่ม เพื่อลดความเสี่ยงสุขภาพ
นอกจากอาการหน้าแดงและอาการไม่สบายตัวจะสร้างความรำคาญให้กับเหล่านักดื่มแล้ว มันยังอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณมีความเสี่ยงต่อโรคและมะเร็งบางชนิดสูงกว่าคนทั่วไป เนื่องจากสารพิษอะซิทัลดีไฮด์ที่สะสมในร่างกายนั้น สามารถสร้างความเสียหายแก่อวัยวะต่างๆ และยังเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้
ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า คนที่มีการกลายพันธุ์ของยีน ALDH2 ทำให้ร่างกายขาดแคลนเอนไซม์ชนิดนี้ มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งสูงกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะมะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร โดยคนที่มีการกลายพันธุ์ของยีนนี้จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารสูงกว่าคนทั่วไปถึง 10 เท่า เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เท่ากัน
สิ่งที่น่าตกใจที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบก็คือ คนที่มีการกลายพันธุ์ของยีน ALDH2 หากดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าหรือเท่ากับ 33 ดื่มมาตรฐาน (standard drink)* ต่อสัปดาห์ จะทำให้ความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งหลอดอาหารเพิ่มสูงถึง 89 เท่า เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์
นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบว่า คนที่มีภาวะ alcohol flush reaction มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 4 แก้วต่อสัปดาห์ เทียบกับคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์เลย ซึ่งโรคความดันโลหิตสูง ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ที่นำไปสู่โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง
การขาดเอนไซม์ ALDH2 มีสาเหตุหลักมาจากพันธุกรรม ปัจจุบันจึงไม่มีวิธีที่จะรักษาให้หายขาดได้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ คนที่มีพันธุกรรมนี้ควรลดปริมาณของสารพิษอะซิทัลดีไฮด์ ให้ร่างกายได้รับน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันผลเสียต่อสุขภาพที่อาจเกิดตามมา โดยนอกจากการลดหรืองดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว การลดปริมาณกาแฟและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล รวมถึงหลีกเลี่ยงการสัมผัสมลพิษในอากาศและควันบุหรี่ ก็สามารถช่วยลดการสะสมของสารพิษอะซิทัลดีไฮด์ในร่างกายได้เช่นกัน
องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุการเสียชีวิตมากกว่า 5% ทั่วโลก และยังเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ กว่า 200 โรค รวมถึงการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ที่มักมีสาเหตุมาจากผู้ขับขี่ดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มในปริมาณมาก ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่างๆ สูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
Dietary Guidelines for Americans แนะนำว่า หากคุณดื่มแอลกอฮอล์ ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม หรือดื่มไม่เกินปริมาณแอลกอฮอล์ในระดับการดื่มปานกลาง (moderate alcohol drinking) ซึ่งเป็นปริมาณที่อาจไม่ทำให้เกิดโทษและอันตรายต่อร่างกาย คือ
นอกจากนี้ Guidelines ไม่แนะนำให้ผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ เริ่มดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น
*1 ดื่มมาตรฐาน (1 standard drink) เท่ากับ
1 ดื่มมาตรฐานเท่ากับไวน์ 1 แก้ว
ชุดตรวจสุขภาพจากดีเอ็นเอ 500+ รายการ จะช่วยให้ทราบว่า คุณมีการกลายพันธุ์ของยีน ALDH2 หรือไม่ ซึ่งพันธุกรรมนี้ไม่เพียงแค่ทำให้เกิดอาการหน้าแดง ยังส่งผลให้ความเสี่ยงสุขภาพ รวมถึงความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะคนที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
ถึงแม้ว่าพันธุกรรมเป็นสิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่การรู้ DNA จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างตรงจุดมากขึ้น เพื่อลดหรือป้องกันความเสี่ยงที่เป็นผลมาจากพันธุกรรมได้ สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่า อาการหน้าแดงหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ อาจเป็นสัญญาณเตือนของร่างกายว่า ถึงเวลาที่คุณจะหยุดดื่ม เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนค่ะ
สอบถามเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ ชุดตรวจสุขภาพจากดีเอ็นเอ 500+ รายการ ได้ที่นี่