Rated 4.98-stars across 2K+ reviews
Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews

ดีจนต้องบอกต่อ "คอลลาเจน" จากกระดูกอ่อนปลาแซลมอน ช่วยเรื่องความสูง

GeneusDNA profile image By
GeneusDNA
|
Nov 22, 2022
|
2.03 k
รู้หรือไม่
salmon nose and shark cartilage benefit
Summary
salmon nose and shark cartilage benefit

คุณทราบหรือไม่ว่า กระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอน มี "โปรตีโอไกลแคน" ที่ช่วยส่งเสริมการสร้างกระดูกอ่อนใหม่ทดแทนและบรรเทาอาการปวดข้อได้

คุณทราบหรือไม่ว่า กระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอน มี "โปรตีโอไกลแคน" ที่ช่วยส่งเสริมการสร้างกระดูกอ่อนใหม่ทดแทนและบรรเทาอาการปวดข้อได้

กระดูกอ่อนปลาแซลม่อน ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงและเสริมสร้างส่วนสูงสมวัยได้ เนื่องจากสารสกัดจากกระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอน มีโปรตีโอไกลแคน ช่วยสังเคราะห์คอลลาเจนชนิดที่ 2 จึงเพิ่มการสร้างคอลลาเจนและเร่งการสร้างกระดูก ช่วยลดอาการปวดข้อจากโรคข้อเสื่อมได้

โรคข้อเสื่อมเกิดขึ้นเมื่อกระดูกอ่อนที่รองรับบริเวณปลายมือ หัวเข่า สะโพกและกระดูกสันหลัง เสื่อมสภาพตามอายุที่มากขึ้นและมีการสร้างกระดูกอ่อนใหม่ทดแทนช้า เกิดอาการข้อติด ปวด และเคลื่อนไหวได้ไม่ดี

 

 

"คอลลาเจน" นั้น.. สำคัญต่อกระดูกและความสูง

การจะมีส่วนสูงสมวัย นั้นไม่เพียงแต่จะต้องมีกระดูกที่ดี แต่ข้อต่อก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนการมีส่วนสูงสมวัยได้

กระดูกอ่อน เป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่แข็งแรงและยืดหยุ่นอยู่ที่ส่วนปลายของกระดูก (บริเวณข้อต่อ) เปรียบเสมือนโช้คอัพของรถ ทำหน้าที่ เป็นตัวรับแรงกระแทก และช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ดี ป้องกันไม่ให้กระดูกเสียหายจากการเสียดสีกัน "คอลลาเจน" เป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งของกระดูกอ่อน ซึ่งคอลลาเจนแต่ละชนิดจะมีหน้าที่ในร่างกายที่แตกต่างกัน ดังนั้น หากต้องการเสริมสร้างกระดูกอ่อนให้แข็งแรง ควรเลือกการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มี "คอลลาเจนชนิดที่ 2"

กระดูกอ่อนปลาแซลมอน และ กระดูกอ่อนปลาฉลามมีประโยชน์ต่อกระดูกและข้อต่อ

 

 

"คอลลาเจน" ทานผิดชนิดชีวิตเปลี่ยน!

คอลลาเจนมีอยู่ 3 ชนิด แต่ละชนิดมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น คอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 ช่วยให้ผนังหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นและเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของเลือด ส่วนคอลลาเจนชนิดที่ 2 จะช่วยส่งเสริมการสร้างกระดูกอ่อน และส่งเสริมการเคลื่อนไหวที่ดีของข้อต่อ

คอลลาเจนชนิดที่ 2 จากแหล่งอาหารตามธรรมชาติที่รู้จักกันดี มีอยู่ 2 แบบ ได้แก่ กระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอน และกระดูกอ่อนปลาฉลาม (แสดงในตารางด้านล่าง) ทั้งสองอย่างนี้มักพบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เน้นเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกอ่อน

"คอลลาเจน" จาก..กระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอน

สารสกัดจากกระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอน มีโปรตีโอไกลแคน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นหลักสำหรับการสังเคราะห์คอลลาเจนชนิดที่ 2 ที่สำคัญต่อการสร้างกระดูกอ่อนและกระดูก การศึกษาในกลุ่มคนอายุน้อยยืนยันว่า สารสกัดจากกระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเส้นใยคอลลาเจนและเพิ่มอัตราการสร้างกระดูก นอกจากนี้ การวิจัยในวัยผู้ใหญ่ยังแสดงให้เห็นว่าการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีกระดูกอ่อนปลาแซลมอน ช่วยลดอาการปวดข้อจากโรคข้อเสื่อมได้ โรคข้อเสื่อมนี้เกิดขึ้นเมื่อกระดูกอ่อนที่รองรับบริเวณปลายมือ หัวเข่า สะโพกและกระดูกสันหลังเสื่อมสภาพตามอายุที่มากขึ้น รวมถึงการสร้างกระดูกอ่อนใหม่ทดแทนเกิดขึ้นได้ช้า เกิดอาการข้อติด ปวด และเคลื่อนไหวได้ไม่ดี

เป็นที่ทราบกันดีว่าการทานกระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอนช่วยส่งเสริมการสร้างกระดูกอ่อนใหม่ทดแทนและบรรเทาอาการปวดข้อได้

ในกลุ่มคนอายุน้อย พบว่ากระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอนช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเส้นใยคอลลาเจนและเพิ่มอัตราการสร้างกระดูก ส่วนในกลุ่มผู้ใหญ่ พบว่า ช่วยลดอาการปวดข้อจากโรคข้อเสื่อมได้

 

 

"คอลลาเจน" จากกระดูกอ่อนปลาฉลาม

จากประวัติการใช้อันยาวนานรวมถึงงานวิจัยจำนวนมากยืนยันว่าการทานกระดูกอ่อนปลาฉลามช่วยส่งเสริมการสร้างกระดูก เพราะมี "คอนดรอยตินและกลูโคซามีน" เป็นส่วนประกอบจึงช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูกอ่อนได้

ปัจจุบันพบว่ากระดูกอ่อนปลาฉลาม สามารถบรรเทาอาการและลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิดได้ นักวิทยาศาสตร์พบว่า ระบบภูมิคุ้มกันของฉลามสามารถต้านทานต่อโรคต่าง ๆ ได้สูง กว่าสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ อีกทั้งยังพบแอนติบอดีปริมาณสูงในเลือดของฉลาม แอนติบอดีนี้มีหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคหรือการติดเชื้อแบคทีเรีย

กระดูกอ่อนปลาฉลามมีคุณสมบัติกดภูมิคุ้มกัน จึงใช้ลดการอักเสบและยับยั้งการสร้างหลอดเลือดใหม่ ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างยิ่ง อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เมื่อมีการยับยั้งการสร้างหลอดเลือดใหม่ก็จะเป็นการลดปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงเซลล์มะเร็งและยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ นี่เป็นแนวคิดใหม่ในการใช้กระดูกอ่อนปลาฉลามสำหรับการรักษาโรคมะเร็ง

แต่การสร้างหลอดเลือดใหม่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของกระดูกและกระดูกอ่อนมาก เพราะเลือดจะช่วยนำสารอาหารเข้าสู่กระดูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นกระดูกอ่อนปลาฉลามจึงอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีในการส่งเสริมสุขภาพที่แข็งแรงของกระดูกและข้อต่อ และการเสริมสร้างส่วนสูงสมวัยสำหรับเด็ก

 

ฉลามเป็นสัตว์กินเนื้อที่มีอายุยืนยาว มันจึงสะสมสารพิษจากสิ่งแวดล้อมและปรอท จากแหล่งอาหารของพวกมันไว้ในร่างกายเป็นระยะเวลานาน

 

สุดท้ายนี้คุณควรทราบว่าฉลามเป็นสัตว์กินเนื้อที่มีอายุยืนยาว มันจึงสะสมสารพิษจากสิ่งแวดล้อมและเมทิลเมอร์คิวรีจากแหล่งอาหารของพวกมันไว้ในร่างกายเป็นระยะเวลานาน แม้ว่ากระดูกอ่อนปลาฉลามจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่งานวิจัยหลายแหล่งยืนยันว่า การทานกระดูกอ่อนปลาฉลามในปริมาณสูงอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดพิษต่อระบบประสาทและเกิดโรคทางระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์ ตามมาได้

 

ดังนั้นในการส่งเสริมสุขภาพกระดูกให้แข็งแรงและเสริมสร้างส่วนสูงสมวัย กระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอนน่าจะมีประโยชน์มากกว่าและมีข้อเสียน้อยกว่ากระดูกอ่อนปลาฉลาม

 

"คอลลาเจน" จากกระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอน และกระดูกอ่อนปลาฉลาม ต่างกันอย่างไร?

 

กระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอน กระดูกอ่อนปลาฉลาม
โครงสร้างของกระดูกอ่อนประกอบด้วย คอลลาเจนชนิดที่ 2 กระดูกอ่อนปลาฉลาม นิยมในการนำมาเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายชนิดที่บำรุงกระดูกและข้อต่อ 
กระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอน เป็นสารจำพวกโปรตีโอไกลแคน ซึ่งประกอบด้วย คอลลาเจนชนิดที่ 2 จำเป็นต่อสุขภาพข้อต่อและกระดูกอ่อน กล่าวได้ว่า กระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอน เป็นแหล่งของคอลลาเจนชนิดที่ 2 จากธรรมชาติ งานวิจัยล่าสุดพบว่า กระดูกอ่อนปลาฉลาม อาจมีสารที่เป็นพิษต่อเซลล์ประสาท และทำให้เกิดโรคทางระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์ ตามมาได้ หากบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นเป็นระยะเวลานาน 
ในวัยผู้ใหญ่การทานอาหารเสริมที่มีกระดูกอ่อนปลาแซลมอน ช่วยลดอาการปวดจากโรคข้ออักเสบได้ มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างหลอดเลือดใหม่ จึงอาจทำให้การสร้างหลอดเลือดใหม่ที่จะไปเลี้ยงกระดูกลดลงและส่งผลต่อความสูงในเด็กได้ 

ตารางเปรียบเทียบ ระหว่างกระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอนกับกระดูกอ่อนปลาฉลาม

 

 

หมายเหตุ

ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ ๔๐๕) พ.ศ. ๒๕๖๒ เรื่องผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (ฉบับที่ ๓) กำหนดว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบของกระดูกอ่อนปลาฉลาม จะต้องระบุคำเตือนบนฉลากว่า “ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและผู้ที่พักฟื้นจากการผ่าตัด” สิ่งนี้จึงเป็นข้อควรระวัง หากจะใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบของกระดูกอ่อนปลาฉลามในกลุ่มคนดังกล่าว

 

ด้วยความห่วงใยจากทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจาก Jelly CARE GRO+

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Jelly CARE GRO+

มีส่วนประกอบของกระดูกอ่อนจมูกปลาแซลมอน

ที่สำคัญต่อการสร้างกระดูกอ่อนและกระดูก

ได้รับการอนุมัติจากอย.เลขที่ 12-1-25864-5-0029

วิตามินรูปแบบเจลลี่ ตัวช่วยเพิ่มความสูง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

นวัตกรรมทางการแพทย์ที่สนับสนุนส่วนสูงสมวัยและสุขภาพที่แข็งแรงสำหรับลูกรักของคุณ

 

References:

  1. Tomonaga, A., Takahashi, T., Tanaka, Y. T., Tsuboi, M., Ito, K., & Nagaoka, I. (2017). Evaluation of the effect of salmon nasal proteoglycan on biomarkers for cartilage metabolism in individuals with knee joint discomfort: A randomized double‑blind placebo‑controlled clinical study. Experimental and Therapeutic Medicine, 14(1), 115-126.
  2. Mondo, K., Glover, W. B., Murch, S. J., Liu, G., Cai, Y., Davis, D. A., & Mash, D. C. (2014). Environmental neurotoxins β-N-methylamino-l-alanine (BMAA) and mercury in shark cartilage dietary supplements. Food and chemical toxicology, 70, 26-32.
  3. Takahashi, T., Matsubara, J., Wakamatsu, K., Tanaka, Y. T., Masutani, T., Yonezuka, M., ... & Tsuboi, M. (2015). Ingestion of salmon nasal cartilage-derived proteoglycan improves skin condition: A randomized, double-blind, controlled study. Immunology, Endocrine & Metabolic Agents in Medicinal Chemistry (Formerly Current Medicinal Chemistry-Immunology, Endocrine and Metabolic Agents), 15(2), 160-167.
  4. Muir, H. (1978). Proteoglycans of cartilage. Journal of Clinical Pathology. Supplement (Royal College of Pathologists)., 12, 67.
  5. Kuettner, K. E., & Cole, A. A. (2005). Cartilage degeneration in different human joints. Osteoarthritis and cartilage, 13(2), 93-103.
  6. Harper, J., & Klagsbrun, M. (1999). Cartilage to bone—angiogenesis leads the way. Nature medicine, 5(6), 617-618.
chat line chat facebook