Rated 4.98-stars across 2K+ reviews
Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews

โรคเกาต์ (Gout): สาเหตุ พันธุกรรม และการป้องกันที่คุณควรรู้

GeneusDNA profile image By
GeneusDNA
|
Dec 16, 2024
|
96
สุขภาพ
พันธุศาสตร์
โรค
โรคเกาต์ พันธุกรรม, การตรวจยีน โรคเกาต์, เกาต์ กรรมพันธุ์, โรคเกาต์ สาเหตุ
Summary
โรคเกาต์ พันธุกรรม, การตรวจยีน โรคเกาต์, เกาต์ กรรมพันธุ์, โรคเกาต์ สาเหตุ

โรคเกาต์ (Gout) เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดจากการสะสมของกรดยูริกในข้อ ส่งผลให้เกิดอาการปวด บวม และอักเสบอย่างเฉียบพลัน โรคนี้มักพบในผู้ที่มีอายุวัยกลางคนหรือสูงกว่า และหากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาการอาจเกิดซ้ำและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ที่สำคัญ งานวิจัยพบว่า พันธุกรรม อาจมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความเสี่ยงของโรคเกาต์

บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุ อาการ และปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม พร้อมวิธีป้องกันโรคเกาต์ และแนะนำบริการ Geneus DNA ที่ช่วยวิเคราะห์ยีนเพื่อให้คุณวางแผนการดูแลสุขภาพได้อย่างแม่นยำ

รู้หรือไม่? โรคเกาต์ ก็เป็นกรรมพันธุ์ ส่งต่อในครอบครัวได้

โรคเกาต์คืออะไร

โรคเกาต์เป็นภาวะข้ออักเสบที่เกิดจากการสะสมของ กรดยูริก (Uric Acid) ในข้อ ซึ่งกรดยูริกเป็นผลพลอยได้จากการย่อยสลาย พิวรีน (Purine) สารที่พบในอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล และแอลกอฮอล์ เมื่อร่างกายมีกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น กรดยูริกจะตกผลึกในข้อและทำให้เกิดการอักเสบอย่างเฉียบพลัน

 
อาการของโรคเกาต์

1. ปวดข้อเฉียบพลัน:
เริ่มต้นจากข้อนิ้วหัวแม่เท้า แต่สามารถเกิดในข้ออื่น ๆ เช่น ข้อเข่า ข้อศอก และข้อเท้า

2. ข้อบวมแดง:
บริเวณข้อที่อักเสบอาจมีลักษณะบวมแดงและร้อน

3. การเคลื่อนไหวลำบาก:
ข้ออักเสบทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปได้ยากขึ้น

4. ตุ่มโทฟัส (tophus/tophi):
กรณีเรื้อรัง อาจพบตุ่มแข็งบริเวณข้อหรือตามผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการสะสมของผลึกกรดยูริก
 

พันธุกรรมเกี่ยวข้องกับโรคเกาต์อย่างไร

พันธุกรรมเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงของโรคเกาต์ ยีนบางชนิดมีผลต่อการควบคุมระดับกรดยูริกในร่างกาย เช่น

1. ยีน SLC2A9:
เกี่ยวข้องกับการขนส่งกรดยูริกในไต หากยีนนี้ผิดปกติ ร่างกายจะขจัดกรดยูริกได้ลดลง

2. ยีน ABCG2:
ควบคุมการขับกรดยูริกทางปัสสาวะ ยีนนี้ผิดปกติอาจทำให้กรดยูริกสะสมในร่างกายเพิ่มขึ้น

3. ยีน ALDH16A1:
มีบทบาทในกระบวนการอักเสบและอาจเพิ่มโอกาสเกิดโรคเกาต์
 

ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสเกิดโรคเกาต์

ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสเกิดโรคเกาต์

นอกจากพันธุกรรมแล้วยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกาต์ เช่น

1. การบริโภคอาหารที่มีพิวรีนสูง:
อาหารประเภทเนื้อสัตว์แดง เครื่องในสัตว์ และแอลกอฮอล์

2. โรคประจำตัว:
เช่น โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง และความดันโลหิตสูง

3. น้ำหนักเกิน:
ผู้ที่มีภาวะอ้วนมีโอกาสสะสมกรดยูริกในร่างกายมากขึ้น

4. เพศและอายุ:
พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยเฉพาะในวัยกลางคน
 

การป้องกันโรคเกาต์

1. ควบคุมอาหาร:
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น เนื้อสัตว์แดง อาหารทะเล และเครื่องในสัตว์

2. ดื่มน้ำมาก ๆ:
น้ำช่วยขับกรดยูริกออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ

3. ออกกำลังกาย:
การออกกำลังกายช่วยควบคุมน้ำหนักและลดระดับกรดยูริก

4. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์:
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเบียร์ เพิ่มระดับกรดยูริกในร่างกาย
 

Geneus DNA: ตัวช่วยประเมินความเสี่ยงโรคเกาต์จากพันธุกรรม

Geneus DNA เป็นบริการตรวจยีนที่ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงทางพันธุกรรมของโรคเกาต์โดยเฉพาะ เช่น ยีน SLC2A9 และ ABCG2 ผลการตรวจช่วยให้คุณสามารถ:

  • ทราบความเสี่ยงของโรคเกาต์จากพันธุกรรม
  • วางแผนการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม
  • รับคำแนะนำด้านไลฟ์สไตล์และโภชนาการจากผู้เชี่ยวชาญ
  • Geneus DNA ช่วยให้คุณสามารถลดความเสี่ยงของโรคเกาต์ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และดูแลสุขภาพได้อย่างมั่นใจ

Geneus DNA: ตัวช่วยประเมินความเสี่ยงโรคเกาต์จากพันธุกรรม

 
การรักษาโรคเกาต์

1. การใช้ยา:

  • ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs): ช่วยลดอาการปวดและบวม
  • ยาลดระดับกรดยูริก (Allopurinol): ช่วยลดการสะสมของกรดยูริก

2. การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์:

  • ควบคุมน้ำหนัก
  • ปรับโภชนาการ

3. การตรวจสุขภาพประจำปี:

  • ช่วยตรวจจับระดับกรดยูริกในระยะแรกและลดความรุนแรงของโรค
     

สรุป
โรคเกาต์เป็นโรคที่สามารถจัดการและป้องกันได้ หากคุณเข้าใจถึงปัจจัยเสี่ยงและดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม การตรวจยีนกับ Geneus DNA ช่วยให้คุณทราบความเสี่ยงทางพันธุกรรม และสามารถวางแผนการดูแลสุขภาพได้อย่างตรงจุด การเลือกใช้ชีวิตที่เหมาะสม เช่น การควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และลดน้ำหนัก จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคเกาต์และส่งเสริมคุณภาพชีวิตในระยะยาว

 

chat line chat facebook